TH
EN

สสว.หนุนเอสเอ็มอีสู้โควิด-19 ชง 3 มาตรการช่วยผู้ประกอบการรายย่อย



สสว. เปิดผลสำรวจเอสเอ็มอีหาแนวทางช่วยเหลือเอสเอ็มอีให้ผ่านวิกฤตโควิด-19 อย่างตรงจุด เตรียมชง 3 มาตรการช่วยเหลือด่วน หารือกรมบัญชีกลาง เปิดโควตาจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐให้กับเอสเอ็มอี กำหนดวงเงินจัดซื้อจากรายย่อย ตั้งศูนย์ให้ความช่วยเหลือ 77 จังหวัด จัดหาผู้เชี่ยวชาญ 2.7 พันคนลงพื้นที่ช่วย     เอสเอ็มอี ดร.วิมลกานต์ โกสุมาศ รองผู้อำนวยการ รักษาการแทนผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) เปิดเผยว่า จากวิกฤตการณ์แพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19  ที่เกิดขึ้นได้ส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบเอสเอ็มอีอย่างรุนแรง ซึ่งจากผลสำรวจพบว่าจะมีเอสเอ็มอีที่ได้รับความเดือดร้อนกว่า 1.33 ล้านราย และกระทบกับแรงงานกว่า 4 ล้านคน
 
ดังนั้น รัฐบาลจึงได้มอบหมายให้ สสว. สำรวจความคิดเห็นของเอสเอ็มอี ว่าต้องการให้รัฐบาลช่วยเหลือในเรื่องใดบ้าง เพื่อให้มาตรการที่ออกมาตรงกับความต้องการของเอสเอ็มอีมากที่สุด โดยจากผลการหารือกับภาคเอกชน ได้แก่ สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย และสภาเกษตรกรแห่งชาติ ผนวกกับผลการสำรวจความต้องการของผู้ประกอบการรายย่อยโดย สสว. จำนวน 2,728 ราย ใน 6 ภูมิภาค 

จากผลสำรวจ พบว่ามาตรการที่ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีต้องการให้ภาครัฐช่วยเหลือมากที่สุด ซึ่งรัฐบาลได้ออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจมารองรับปัญหาเหล่านี้อย่างทันท่วงที ได้แก่ การลดภาระค่าใช้จ่ายค่าน้ำ การคืนเงินประกันการใช้ไฟฟ้า  การขยายระยะเวลาการยื่นแบบภาษีเงินได้ การลดค่าเช่าให้กับผู้ประกอบการในพื้นที่ความรับผิดชอบของรัฐและหน่วยงานท้องถิ่น และการอุดหนุนให้มีการจ้างงานต่อไป พร้อมกับการจัดให้มีสภาพคล่องในรูปของเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำที่มีเงื่อนไขปล่อยกู้ผ่อนปรนกว่าเดิม ประกอบด้วย 

1. มาตรการสินเชื่อดอกเบี้ย 2% ต่อปี วงเงิน 1.5 แสนล้าน 
2. มาตรการชำระหนี้เงินต้นลดดอกเบี้ยของธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) , ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) , ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) โดยมีบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) เข้าไปสนับสนุน 
3. การผ่อนปรนหลักเกณฑ์ต่างๆ ที่เอื้อต่อการเข้าถึงแหล่งทุนได้ง่ายขึ้น โดยธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และ4. ให้ผู้ประกอบการนำรายจ่ายค่าจ้างลูกจ้างที่ทำประกันตนมาหักภาษีได้ 3 เท่า เพื่อสร้างเสถียรภาพการจ้างงานให้กับเอสเอ็มอี

อย่างไรก็ตาม หากสถานการณ์ยืดเยื้อ สสว. ได้เตรียมออกมาตรการช่วยเหลือเอสเอ็มอีเพิ่มเติมอีก 3 ประการ ได้แก่ 

1. สสว. กำลังดำเนินการร่วมกับกรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง เพื่อช่วยให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีเข้าถึงตลาดจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐได้มากยิ่งขึ้น โดยขณะนี้กำลังศึกษามาตรการต่างๆ ที่อาจนำมาใช้ได้ คือ การกำหนดโควต้าจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐไว้ให้เอสเอ็มอีเป็นการเฉพาะ เช่นเดียวกับที่ปฏิบัติในประเทศสหรัฐฯ และเกาหลีใต้ , การให้แต้มต่อด้านราคาแก่เอสเอ็มอี , การกำหนดประเภทสินค้า 
2. สสว. ได้มอบหมายศูนย์ให้บริการเอสเอ็มอีครบวงจร (OSS) ทั่วประเทศ 77 จังหวัด ให้ทำการสำรวจและรับข้อร้องเรียนจากผู้ประกอบการ รวบรวมปัญหาและความต้องการช่วยเหลือที่เกิดขึ้น รวมถึงส่งต่อผู้ประกอบการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ความช่วยเหลือในด้านต่างๆ ผู้ประกอบการที่ตัองการความช่วยเหลือสามารถติดต่อศูนย์ให้บริการเอสเอ็มอีครบวงจร (OSS) แต่ละจังหวัด หรือโทรสายด่วน 1301
3. สสว. ได้ดำเนินการโครงการ Train the Coach โดยรวบรวมและขึ้นทะเบียนผู้เชี่ยวชาญด้านต่างๆ เพื่อเป็นที่ปรึกษาเชิงลึกหรือโค้ชให้กับผู้ประกอบการ โดยได้มีการพัฒนาโค้ชแยกตามกลุ่มต่างๆ ดังนี้ กลุ่ม Biz Mentor จำนวน 547 คน กลุ่ม Tech Expert จำนวน 2,133 คน และกลุ่ม Biz Transformer จำนวน 20 คน รวมจำนวนโค้ชที่ขึ้นทะเบียนไว้ในระบบทั้งสิ้น 2,700 คน หลังจากสำรวจและรวบรวมปัญหาและความต้องการของผู้ประกอบการในแต่ละพื้นที่แล้ว สสว. พิจารณาส่งที่ปรึกษาเหล่านี้ลงพื้นที่ให้คำปรึกษาแนะนำในการปรับตัวให้ทันต่อสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ต่อไป



สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.)
21 อาคารทีเอสที ชั้น G,17,18,23 ถนนวิภาวดีรังสิต แขวงจอมพล เขตจตุจักร กรุงเทพฯ 10900

โทร. 1301
แฟกซ์ 0-2273-8850

อีเมล์ saraban@sme.go.th (สารบรรณกลาง หรือส่งหนังสือ)
อีเมล์ osmepcare@sme.go.th (ส่งเรื่องร้องเรียน หรือร้องทุกข์ของ สสว.)
อีเมล์ info@sme.go.th (ส่งเรื่อง สอบถามข้อมูล เสนอแนะความคิดเห็น)